วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6 (25/07/2554)

สวัสดีอาจารย์ที่เคารพและเพื่อนๆทุกคนวันนี้อาจารย์พูดถึงการรณรงค์ลด ละ เลิกเหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติดและอาจารย์ได้บอกว่าสื่อที่ให้ข้อความรู้มีมากมายได้แก่สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ การจัดนิทรรศการ โปสเตอร์
นอกจากจะมีสื่อเหล่านี้แล้ว เราควรมีการส่งไปรษณีย์ ไปย้ำเตือนให้ลด ละ เลิกเหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติด
และมีเพลงให้ฟังเพื่อเป็นการย้ำเตือนอีกทางแล้วเรายังสามารถช่วยกันเดินรณรงค์ เวลาเดินรณรงค์ควรมีการทดลองให้ดู โดยให้เห็นข้อเท็จจริงเพื่อที่จะให้รู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีและสิ่งที่เราพูดมาเราสามารถเขียนเป็นโครงการขึ้นมาได้
จากการรณรงค์ทำให้คนรอบข้างได้ประโยชน์ดังนี้
-ได้ความรู้
-ได้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ คือ ลงมือปฏิบัติ
-ได้กระบวนการทำงานจากการเรียงลำดับของโครงการ
-เกิดการทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม
และที่อาจารย์ได้พูดมาทั้งหมดนี้คือการสรุปโครงการการรณรงค์ลด ละ เลิกเหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติด

เมื่อข้อความรู้เสร็จอาจารย์ก็ถามว่าข้อความรู้สื่ออะไรถึงตัวเด็ก เพื่อนๆก็ตอบมากมาย แต่ก็ผิดแต่ก็มีเพื่อนคนหนึ่งตอบว่าพูดถึงลักษณะของเด็กและก็เป็นคำตอบที่ถูกต้อง ข้อความข้างต้นบอกลักษณะของเด็กปฐมวัย และอาจารย์ได้ยกตัวอย่าง ให้บอกลักษณะส้มโอ เพื่อนในห้องทุกคนก็ช่วยกันตอบอย่างสนุกสนาน
อาจารย์ได้พูดถึงเนื้อหาหลายๆหัวข้อมีดังนี้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทักษะกระการทางวิทยาศาสตร์เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหาเหตุผล แสวงหาความรู้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามวัยของเด็ก ควรจัดกิจกรรมให้เด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเองจากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
1.ทักษะการสังเกตหมายถึง การใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ประสาทสัมผัสทั้ง5 เข้าไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุ หรือ เหตุการณ์ โดยมีจุดประสงค์ที่จะหาข้อมูล ซึ่งมีรายละเอียดของสิ่งนั้นๆ
-การสังเกตรูปร่างลักษณะและคุณสมบัติทั่วไป
-การสังเกตควบคู่กับการวัดเพื่อทราบปริมาณ
-สังเกตเพื่อรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง
2.ความหมายทักษะการจำแนกประเภท หมายถึง ความสามารถในการแบ่งประเภทสิ่งของโดยการหาเกณฑ์
-ความเหมือน
-ความแตกต่าง
-ความสัมพันธ์ร่วม
3.ความหมายทักษะการวัด หมายถึง การให้เครื่องมือต่างๆวัดหาปริมาณสิ่งของที่เราต้องการทราบได้อย่างถูกต้อง โดยมีหน่วยการวัดกำกับ
-รู้จักกับสิ่งของที่จะวัดกำกับ
-การเลือกเครื่องมือที่นำมาใช้วัด
-วิธีการที่เราจะวัด
4.ความหมายทักษะการสื่อความหมาย หมายถึง การพูด การเขียน วาดภาพ และภาษาท่าทางการแสดงสีหน้า ความสามารถรับข้อมูลได้อย่างถูกต้องและชัดเจน
-บรรยายลักษณะคุณสมบัติของวัตถุ
-บันทึกการเปลี่ยนแปลงของวัตถุได้
-บอกความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ได้จัดกระทำ
-จัดกระทำข้อมูลในรูปแบบต่างๆ
5.ความหมายทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล หมายถึง การเพิ่มเติมความคิดเห็นให้กับข้อมูลที่มีอยู่อย่างมีเหตุผลโดยอาศัยความรู้หรือประสบการณ์
-ลงข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ
-ลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ
-ความสังเกตเพื่อรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง
6.ความหมายทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับเวลา
หมายถึง การรู้จักเรียนรู้ 1 มิติ 2 มิติ 3 มิติ การเขียนภาพ 2 มิติแทนรูป 3 มิติ การบอกทิศทาง การบอกเงาที่เกิดจากภาพ 3 มิติ การเห็นและเข้าใจภาพที่เกิดบนกระจกเงาการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับเวลา สำหรับเด็กปฐมวัย
1.ชี้บ่งภาพ 2 มิติ และ3 มิติ
2.บอกสัมพันธ์ระหว่างทิศทางของวัตถุ
3.บอกตำแหน่งหรือทิศทางของวัตถุ
4.บอกตำแหน่งซ้ายหรือขวาของภาพที่เกิดจากการวางวัตถุไว้หน้ากระจก
7.ความหมายทักษะการคำนวณ หมายถึง ความสามารถในการนับจำนวนของวัตถุ การบวกการลบ คูณ หาร การนับจำนวนของวัตถุการนำจำนวนตัวเลขมากำหนดบอกลักษณะต่างๆ เช่น ความกว้าง
1.การนับจำนวนของวัตถุ
2.การบวก ลบ คูณ หาร
3.การนำตัวเลขมากำหนดเพื่อบอกลักษณะต่างๆของวัตถุ

มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย คือ เป็นเกณฑ์การวัด
มาตรฐานการศึกษาด้านผู้เรียน
-มาตรฐานที่ 5 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ และมีความคิดสร้างสรรค์
และในวันนี้อาจารย์ก็ได้สอนไว้แค่นี้แล้วก็สั่งงานให้ส่งในอาทิตย์หน้า

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 5 (19/072554)

สวัสดีค่ะอาจารย์และเพื่อนทุกคน วันนี้ดิฉันไม่ได้มาเรียนจึงนำบทความของ นางสาวธนาภรณ์ อำลอย มาเป็นต้นแบบในครั้งนี้ และนางสาวธนาภรณ์ อำลอย ได้เขียนบทความรู้ดังนี้
สำหรับการเรียนการสอนในวันนี้ อาจารย์ให้สรุป การทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่แต่ละกลุ่มได้ทำ กลุ่มดิฉันได้ทำกิจกรรม น้ำนมมหัศจรรย์ และอาจารย์ให้สรุปออกมาเป็น Mind map เป็นกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย ขั้นตอน อุปกรณ์ ผลที่ได้รับ เด็กได้ความรู้อะไรบ้าง เกิดทักษะอะไรบ้าง และหลังจากนั้น อาจารย์ได้พูดคุยกันในเรื่อง โครงการ ลด ละ เลิก บุหรีและสิ่งเสพติดเพื่อถวายแด่พ่อหลวง 84 พรรษา และอาจารย์ให้แต่ละกลุ่มเขียนโครงการนี้ออกมาเป็นของแต่ล่ะกลุ่ม ได้มีการแต่เพลงเพื่อใช้ในการรณรงค์เชิญชวนเกี่ยวกับโครงการนี้
บรรยายกาศในการเรียนในวันนี้ มีความสนุกสนานดี มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างสนุกสนาน ห้องเรียนมีบรรยากาศน่าเรียน อากาศเย็นสบายดีค่ะ

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4 (12/07/2554)

สวัสดีค่ะอาจารย์ที่เคารพและเพื่อนๆทุกคน วันนี้อาจารย์ให้ออกมานำเสนองานจากสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มของดิฉันได้เรื่องเกี่ยวกับแนวคิดของนักการศึกษา กลุ่มของดิฉันได้นำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่ คือ นำเสนอแบบรายการโทรทัศน์ อาจารย์ก็ได้ให้คำเสนอแนะในการนำเสนองานว่า ผลงานยังไม่ค่อยสมบรูณ์ เพราะเพื่อนในกลุ่มไม่ได้พูดทุกคน จึงทำให้การให้คะแนนไม่เท่ากันอาจารย์ให้ตามการทำงานของแต่ละบุคคล และอาจารย์ให้นำไปปรับปรุงในการนำเสนอครั้งต่อๆไป แล้ววันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษนำกิจกรรมวิทยาศาสตร์มาทดลองในห้องเรียน และกลุ่มของดิฉันได้ทดลองกิจกรรม ลูกเกดเต้นระบำ มีวิธีการทดลองดังนี้
1.นำน้ำโซดาเทใส่แก้ว 1 ใบและน้ำเปล่าเทใส่แก้ว 1 ใบ
2.นำลูกเกดใส่แก้วทั้ง 2 ใบแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลูกเกดในแก้วทั้ง 2 ใบ
ผลการทดลอง
ลูกเกตที่อยู่ในแก้วน้ำโซดาจะจมลอยสลับกันไปมา แต่ลูกเกตที่อยู่ในน้ำเปล่าจะจมลงไป
สาเหตุที่ทำให้ลูกเกตจมลอยสลับกันไปมา
เพราะน้ำโชดามีกรดและมีความซ่า เมื่อเรานำลูกเกตใส่ลงไปในน้ำโซดา ทำให้ลูกเกตเกิดการลอยตัวขึ้นมาเพราะเกิดจากแรงดันของก๊าซที่อยู่ภายในน้ำโซดาทำให้ลูกเกตเกิดการเคลื่อนไหวลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ที่ 3 ( 05/07/2554)

สวัสดีคะอาจารย์ที่เคารพ วันนี้อาจารย์ให้นำเสนองาน แต่นักศึกษาทำงานมาในรูปเดิมๆ อาจารย์จึงให้เวลา 20 นาที เพื่อให้คิดการนำเสนองานรูปแบบใหม่ แต่นักศึกษาขอเลื่อนเป็นสัปดาห์หน้าเพื่อให้การนำเสนองานมีรูปแบบที่ดีกว่านี้


++++ งานที่อาจารย์สั่งมีดังนี้
1) นำเสนองานในรูปแบบที่แปลกใหม่
2) แบ่งกลุ่ม 3-4 คนหากิจกรรมวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน สัปดาห์หน้า

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่2(28/062554/)

สวัสดีอาจารย์ที่เคารพและเพื่อนๆทุกคนนะคะ วันนี้อาจารย์ให้ฟังเพลงแล้วอาจารย์ให้หาคำตอบ 3 ข้อ
1) ฟังเพลงแล้วให้บอกว่าเพลงนี้ให้ความรู้อะไรกับเรา
2) ฟังเพลงแล้วบอกว่าเกี่ยวข้องอะไรกับวิทยาศาสตร์
3) และจะนำความรู้ที่ได้ไปสอนเด็กอย่างไร
1) ฟังเพลงแล้วให้บอกว่าเพลงนี้ให้ความรู้อะไรกับเรา
เพลงนี้ให้วามรู้เกี่ยวกับการระเหยของไอน้ำแล้วกลายเป็นฝน คือพระอาทิตย์ส่องแสงมาสู่แม่น้ำด้วยความร้อนทำให้น้ำระเหยกลายเป็นไอน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้าและกลายเป็นฝนตกลงมาให้เด็กๆได้เล่น
2) ฟังเพลงแล้วบอกว่าเกี่ยวข้องอะไรกับวิทยาศาสตร์
ทำให้เด็กรู้วัฏจักรของการระเหยของไอน้ำ
3) และจะนำความรู้ที่ได้ไปสอนเด็กอย่างไร
- นำสื่อเพลงที่ได้ไปเป็นขั้นนำ คือให้เด็กฟังเพลงแล้วถามเด็กดูสิจะเป็นจริงหรือเปล่าทำให้เด็กเกิดข้อสงสัย มีการตั้งสมมุติฐาน ทำการทดลอง มีการจดบันทึกหลังการทดลอง และสรุปผลการทดลอง
- ขั้นสอน คือ นำอุปกรณ์มาให้เด็กๆทดลองและให้เด็กๆ ตั้งสมมุติฐาน ทำการทดลอง มีการจดบันทึกหลังการทดลอง และสรุปผลการทดลอง
- ขั้นสรุป คือ เด็กสรุปการทดลองและให้ออกมาบอกสิ่งที่เด็กๆได้บันทึกไว้และครูทวนความรู้ให้เด็กๆ
จากนั้นอาจารย์ก็ให้หาความหมายของวิทยาศาสตร์ และก็ได้สรุปความคิดของเพื่อนที่ได้บอกมาได้ดังนี้ วิทยาศาสตร์หมายความว่า สิ่งที่อยู่รอบๆตัว ทั้งสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและไกลตัวและอาจารย์ได้บอกไว้ว่าเราควรจะสอนเด็กจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเด็กและมีความสำคัญกับชีวิตของเด็กก่อนแล้วค่อยๆห่างตัวออกไป จากนั้นอาจารย์ก็ให้ช่วยกันบอกถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์แล้วสรุปได้ดังนี้ คือ ทำให้มนุษย์อยากรู้อยากเห็นและเกิดการทดลอง มีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลง เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์นั้นมีความสำคัญกับแด็กหรือมนุษย์คือ เกิดความอยากรู้อยากเห็นและเกิดการทดลอง จากนั้นมนุษย์ก็ลงมือปฏิบัติหรือทดลอง เมื่อทดลองเสร็จทำให้เกิดการค้นพบความรู้และความสามารถในการใช้ทักษะ เสร็จแล้วก็สรุปองค์ความรู้และความสามารถของตน จากนั้นก็ค้นหาและสืบเสาะเพิ่มเติมและก็วนไปสู่การอยากรู้อยากเห็นแบบนี้ไปเลยๆ นอกจากมีความสำคัญกับมนุษย์แล้วยังมีความสำคัญกับสิ่งต่างๆในโลก ทำให้เรารู้คุณลักษณะและคุณสมบัติ
ของสิ่งต่างๆในโลก เราจะนำสิ่งต่างๆในโลกมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร เราจะนำสิ่งต่างๆในโลกมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร เมื่อเราใช้ประโยชน์เราจะดูเรารักษาสิ่งต่างๆในโลกนี้ได้อย่างไร นอกจากที่กล่าวมานั้นวิทยาศาสตร์ยังมีความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและเราควรมีวิธีการดูแลและป้องกันสิ่งแวดล้อม และเราควรมีวิธีการในการพัฒนาที่ถูกต้องและเหมาะสม และอาจารย์ก็ได้ถามถึงทฤษฎีพัฒนาการทางสิติปัญญาว่า ถ้าพูดถึงทฤษฎีพัฒนาการทางสิติปัญญาแล้วนักศึกษาคิดถึงใคร ถ้าพูดถึงทฤษฎีพัฒนาการทางสิติปัญญาทำให้ดิฉันคิดถึง เพียเจร์ และอาจารย์ก็ให้ช่วยกันสรุปพัฒนาการทางสติปัญญา พัฒนาการทางสติปัญญา คือการเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับขั้นตอนตามความสามารถทางสติปัญญาแต่ละช่วงอายุ และเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นจึงสรุปเป็น MAP ได้ดงนี้
***วันนี้อาจารย์สั่งงานให้ไปทำมีดังนี้
1) หาความหมายของวิทยาศาสตร์(หาจากหนังสือและเขียนอ้างอิง)
2) หาความสำคัญของวิทยาศาสตร์(หาจากหนังสือและเขียนอ้างอิง)
3) หาพัฒนาการทางสติปัญญาและมีความสำคัญกับสมองอย่างไร
4) ทำงานกลุ่ม และเตรียมตัวนำเสนอ

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่1 (21/062554/)

สวัสดีอาจารย์ที่เคารพและเพื่อนๆทุกคนนะคะ วันนี้เป็นวันแรกที่ดิฉันได้เรียนวิชานี้และได้พบอาจารย์เป็นวันแรก วันนี้อาจารย์ได้ให้เขียนความหมายของวิทยาศาสตร์ตามความคิดของตนเอง และในความคิดของดิฉัน ดิฉันคิดว่าวิทยาศาสตร์ คือ สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเราที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมนุษย์สร้างขึ้น โดยที่เราสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 รับรู้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม และอาจารย์ก็ได้อธิบายเกี่ยวกับรายวิชานี้ว่า วิชานี้มีหัวใจสำคัญอะไรบ้าง และเราก็ได้สรุปร่วมกันว่า วิชาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย มีหัวใจหลักอยู่4 หัวข้อใหญ่ คือ เด็กปฐมวัย วิทยาศาสตร์ การจักการเรียนรู้ และประสบการณ์ ก่อนที่เราจะเรียนเราต้องรู้ถึงพัฒนาการของเด็กก่อนว่าเด็กมีความต้องอะไรและมีความสามารถเท่าใดรู้ถึงวิธีการเรียนรู้ของเด็ก ส่วนวิทยาศาสตร์เราต้องรู้ว่าวิทยาศาสตร์คืออะไรและเราต้องสร้างทักษะทางวิทยาศาสตร์ให้แก่เด็กคือ สังเกต,ตั้งสมมุติฐาน,ทดสอบ บันทึกและสรุป ส่วนการจัดการเรียนรู้มีการจัดการออกแบบ,วางแผน และส่วนประสบการณ์เราต้องให้เด็กใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการรับรู้และเรียนรู้และเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นดิฉันจะสรุปเป็น MAP ได้ดังนี้